รีวิว Bloodhounds ซีรีย์เกาหลี แนวแอ็คชั่น อาชญากรรม ที่สร้างจากเว็บตูน กำกับโดย คิมจูฮวาน นำแสดงโดย อูโดฮวาน , อีซังอี 2 หนุ่มในมาดหล่อ และทะเล้น ที่จะมาสร้างสังเวียน ในแบบของตัวเอง
เป็นซีรีย์ที่ตอบโจทย์ความดี ความชั่ว มีการแบ่งขาว ดำ ได้ชัดเป๊ะ สมบูรณ์แบบ กลมกลืน และลงตัวสุด ๆ ลุ้นระทึก ชวนติดตามตั้งแต่ต้นจนจบ
เรื่องย่อ Bloodhounds
เป็นเรื่องราวของ 2 หนุ่ม คิมกอนอู (รับบทโดย อูโดฮวาน) และ ชเวอูจิน (รับบทโดย อีซังอี) ที่พวกเขา ต้องมาช่วยกันทำลายล้าง ผู้มีอิทธิผล ที่ปล่อยเงินกู้นอกระบบ กับชาวบ้าน ด้วยการคิดดอกเบี้ย แบบขูดเลือดขูดเนื้อ
โดยพวกเขาทั้ง 2 คน เคยเจอกัน บนสังเวียนชกมวยมาก่อน ก่อนที่โควิด โรคร้ายแรงจะระบาด ทำให้ร้านค้าหลายร้าน ต้องถูกปิดตัวลง มันจึงทำให้ผู้มีอิทธิพลทางการเงิน เริ่มออกมาหากิน กับชาวบ้าน ด้วยการทำเงินกู้นอกระบบ ซึ่งแม่ของกอนอู ก็โดนหลอกโดยไม่รู้ตัวเข้า ทำให้กอนอู ต้องฟันผ่าความชั่วเหล่านั้นให้ได้
แต่เรื่องนี้ สร้างให้แก๊งปล่อยเงินกู้ ใหญ่โต โดยให้เหยื่อ เป็นถึงตระกูลเศรษฐี ที่มีอิทธิพลของเกาหลี ที่ถูกครอบงำ และถูกแบล็คเมล์ โดยมีเบื้องหลัง เป็นแผนการร้าย ที่ช่วยขยายเรื่องให้ใหญ่โตขึ้น ถึงระดับชาติ ได้อย่างน่าติดตาม แต่ในเรื่องนี้ ยังมีแก๊งเงินกู้นอกระบบฝ่ายดี เป็นมหาเศรษฐีใจบุญ ที่ปล่อยกู้ แบบไม่มีดอกเบี้ย ช่วยคนเดือดร้อน
รีวิว Bloodhounds ผูกเรื่องได้น่าติดตาม ตั้งแต่ต้นจบจน
ซีรีย์เรื่องนี้ ใช้การเดินเรื่องแบบ 2 ตัวเอก ที่จัดให้นักมวยหนุ่ม 2 คน มาเจอกันบนสังเวียน และทำให้ทั้งคู่ กลายเป็นเพื่อนกัน การแข่งขันในครั้งนั้น กอนอูเป็นฝ่ายชนะ และได้รับเงินรางวัล แถมยังมีโอกาสเดินหน้าต่อ ในเส้นทางนี้
แต่ก็ต้องดับความฝันของตัวเองลง อย่างช่วยไม่ได้ เพราะต้องหาเงินมาใช้หนี้ ที่แม่ของเขาไปกู้ยืมมาจากเจ้าหนี้นอกระบบ ในด้านของชเวอูจิน ที่รู้ถึงความเดือดร้อน ของกอนอู้ ก็พร้อมที่จะยื่นมือ เข้ามาช่วยเหลือสุดแรง
ซึ่งบทก็ผูกเรื่องราว ให้คืบหน้าไปทีละนิด ด้วยการที่ให้ทั้ง 2 คน ต้องพัวพันกันด้วยมิตรภาพ โยงดราม่าแบบใจแลกใจ และเริ่มผูกพันกันเหมือนพี่เหมือนน้อง
ถึงแม้ซีรีย์เรื่องนี้ จะเป็นแนวบู๊ก็ตาม แต่เนื้อหาของเรื่อง ก็สร้างความสนุก ให้คนดูได้ยิ้ม ได้หัวเราะตาม เป็นการขายขำเล็ก ๆ สไตล์ซีรีย์เกาหลี แต่ก็เป็นการสร้างเหตุผล ให้คนดูยอมรับ ได้อย่างไม่ติดใจสงสัย
ส่วนความเข้มข้นของเรื่องนี้ ก็จัดว่าดุเดือด ปล่อยหมัดไม่มีพักกันเลยทีเดียว แต่ก็ยังมีฉากที่กินใจ สร้างความสลดใจ เพิ่มความเศร้าได้อีก เมื่อได้ฟังเรื่องราวในอดีตต่าง ๆ ของกอนอู ที่ทำให้เขา พยายามเป็นคนที่แข็งแกร่งขึ้น
แต่ละคน ก็ต่างมีคาแรกเตอร์ที่แตกต่างกัน มีดราม่าของแต่ละคน ที่สามารถทำให้ผู้ชม อินไปกับเรื่องราวของแต่ละคนได้ จนกลายเป็น ซีรีย์อาชญากรรม ที่ฆ่าฟันกันอย่างดุเดือด มีความอบอุ่นของสายสัมพันธ์ต่าง ๆ แทรกอยู่ ตลอดเส้นเรื่อง ตามสไตล์ซีรีย์เกาหลี
แต่เนื้อเรื่อง ก็ไม่ลืมที่จะบอกกับเราอย่างชัดเจนเลย ว่าตัวหนังไม่ได้สนับสนุนคนชั่วเลบ ถึงแม้ตัวละครบางคน จะกลับใจมาเป็นคนดีแล้ว แต่อาชญากรก็ยังคงมีอดีตที่ล้างไม่ออกอยู่ดี แต่ถ้าต้องการที่จะทำความดี เป็นการไถ่โทษ ก็ต้องทำให้มันดีที่สุด อย่างมีศักดิ์ศรี
ซีรีย์เล่าเรื่องไป แบบกระชับ และจบในทุก ๆ ตอน ด้วยการทิ้งจุดพีค ที่ทำให้คนดูลุ้นอยู่ตลอด ซึ่งก็ทำให้ซีรีย์เรื่องนี้ ค่อนข้างใช้เวลาพอสมควร เพราะจะต้องดูจนจบให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะติดใจ จนนอนไม่หลับแน่ ๆ
ในการเล่าเรื่องของ ep1-6 เต็มไปด้วยความมันส์สะใจ ความอบอุ่นละมุน จนต้องพากันยิ้มตาม แต่ก็ต้องมาแผ่นลงใน ep ที่ 7-8 ซึ่งค่อนข้างขัดกับความสมบูรณ์แบบ ในตอนต้น ๆ อยู่พอสมควร
ซึ่งอาจจะเป็นปัญหาหลัก มาจากนักแสดงนำคนหนึ่ง โดนคดีเมาแล้วขับ จนทำให้ต้องถอนตัว ออกจากซีรีย์เรื่องนี้ ไปกลางคัน จริง ๆ แล้วบทของเธอค่อนข้างสร้างความสดใส ให้กับเรื่องนี้ แต่ก็ต้องตัดบทเธอออก แม้พยายามทำให้มันสมเหตุสมผลแล้ว แต่ก็ยังรู้สึกแปลก ๆ อยู่ดี
สิ่งที่โดดเด่นของเรื่อง ก็เป็นแอคชั่นอาชญากรรม ที่เต็มไปด้วยเชิงมวย แบบจัดหนัก ผสมผสานกับศิลปะการต่อสู้อย่าง MMA มาด้วย สมจริง น่าดู ตื่นเต้น และดูสนุก
และด้วยความที่ พระเอกทั้ง 2 คน เป็นมวยคนละสไตล์ ต้องฟิตร่างกาย ฟิตกล้าม หุ่นเฟิร์ม ๆ แถมยังฝึกสกิลบู๊ ได้สมจริงสุด ๆ มีเสน่ห์เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว การต่อสู้ก็ใช้ความดิบเถื่อน สู้แบบตัวๆ ไม่มีปืน มีแต่มีด และอาวุธประชิดตัว ผูกกับความสัมพันธ์กัน ผ่านการชกมวย จากคู่ชก กลายเป็นพี่น้องกัน
ซึ่งเรื่องนี้ ผู้อารมณ์ต่าง ๆ ได้เข้ากันภายในเวลาสั้น ๆ และใช้การต่อยมวย เป็นเอกลักษณ์ หัวใจหลัก ของฉากแอ็คชั่นั้งเรื่อง ทำออกมาได้สมจริง ดุเดือด เลือดสาด ที่แม้บางจุด จะดูโอเวอร์ไปบ้าง แต่ก็อยู่ในจุดที่พอรับได้
โดยมีการพัฒนา การต่อสู้ขึ้นไปเรื่อย ๆ มีทั้งแพ้ แล้วไปฝึกสกิลมาใหม่ อัพน้ำหนักตัว ฟิตร่างดาย สร้างกล้ามเนื้อ เพิ่มน้ำหนักหมัด ขึ้นไปเรื่อย ๆ เหมือนเอานักชกพรสวรรค์เก่ง ๆ มาต่อสู้จริง ๆ เลย
ในเรื่องนี้ คงสะท้อนโลกในปัจจุบัน ในโลกที่ผู้มีอำนาจ ก็ต่างกดขี่ข่มเหง ใช้ความเดือดร้อนของประชาชน มาเป็นแหล่งทำมาหากิน โดยไม่ได้คำนึงถึงความเดือดร้อน ของประชาชน บวกกับเศรษฐกิจที่ซบเซา ด้วยโรคระบาดร้ายแรง ยิ่งทำให้ประชาชน เริ่มท้อ และตกเป็นเหยื่อของ ผู้มีอำนาจ และผู้ที่ไม่หวังดี
ซีรีย์ก็ทำให้เรานึกตาม และอย่าหลงเชื่อกับคนพูด ของคนอื่นมากนัก แต่ก็ชูเรื่องว่า คนไม่มีอำนาจ ก็สามารถทำให้ตัวเอง ต่อสู้กับอุปสรรค์ต่าง ๆ และก้าวผ่านเรื่องราวร้าย ๆ ความเดือดร้อนต่าง ๆ มอบความยุติธรรม ให้กลับคืนมาได้
บทความอื่น ๆ ที่น่าสนใจ
– รีวิว Transformers: Rise of the Beasts (ทรานส์ฟอร์เมอร์ส: กำเนิดจักรกลอสูร) ภาคแยกที่แอ็คชั่นจัดเต็ม
– รีวิว Queen Maker ฉันจะปั้นราชินี ซีรีย์เกาหลี แนวแก้แค้นสุดดุเดือด
– รีวิว Guardians of the Galaxy 3 ห้ามพลาด กินใจสุด ๆ